การเตรียมพื้นผิวสีรถยนต์ให้สะอาด
การลูบด้วยดินน้ำมัน Clay Detailing เพื่อขจัดคราบสกปรกที่ล้างธรรมดาล้างไม่ออก
Clay Bar หรือดินน้ำมัน
เป็นสารสังเคราะห์ชนิดหนึ่ง แตกต่างจากดินน้ำมันทั่วไปที่ใช้สำหรับงานปั้นซึ่งใช้แทนกันไม่ได้นะครับ ดินน้ำมันสำหรับทำความสะอาดรถมีความเหนียว ไม่มีความมัน เป็นก้อนแข็ง ไม่ละลายน้ำ มีคุณสมบัติในการดูดสิ่งสกปรกต่างๆจากพื้นผิวรถได้เป็นอย่างดี และดีกว่าแชมพูทั่วไปมาก
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากเพราะหากพื้นผิวสีรถยนต์ไม่สะอาดอย่างแท้จริงแล้ว การที่เราเคลือบน้ำยาทับไปไม่ว่าจะใช้น้ำยาดี มีคุณสมบัติแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ทำให้เกิดผลงานความเงางามอย่างทีควรจะเป็น ซ้ำร้ายยิ่งเป็นการเคลือบทับสิ่งสกปรก เคลือบรอยคราบให้ติดทนแน่นกับสีผิวรถยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจกับขั้นตอนนี้เป็นพิเศษ เพราะยิ่งท่านเตรียมพื้นผิวได้สะอาดมากขึ้นเท่าไร ท่านก็จะสามารถขับเน้นความงามของรถท่านได้มากขึ้นเท่านั้น
1. เมื่อล้าง ทำความสะอาด และเช็ดรถยนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำรถมาบริเวณจุดแห้ง ไม่มีน้ำขัง และไม่ชื้น ปลอดฝุ่นและสิ่งสกปรก ควรมีหลังคาปกคลุม เพราะบางครั้งการทำงานกลางแจ้งแม้จะไม่มีแดด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีรังสีอุลตราไวโอเลต และคลื่นความร้อน คลื่นความร้อนเหล่านี้จะทำให้น้ำยา และสารเคมีต่างๆแห้งเร็วเกินไป อย่างไรก็ดีควรมีแสงสว่างเพียงพอด้วย
2. ตรวจสอบรอยคราบ และสิ่งสกปรกรอบคันรถ แล้วใช้เทปกาวสำหรับรถโดยเฉพาะ มาร์กรอยต่างๆไว้ แต่หากท่านสามารถจำได้ว่ามีรอยคราบอยู่ที่ใดบ้างของรถ ก็ไม่จำเป็นต้องมาร์ก
3. พิจารณาวิเคราะห์ว่ารอยคราบ หรือสิ่งสกปรกที่เราพบเป็นรอยคราบที่เกิดจากอะไรบ้าง เพื่อพิจารณาเลือกใช้น้ำยา หรืออุปกรณ์ที่เหมาะสมทำความสะอาดรอยคราบนั้น เช่นคราบยางไม้ แมลง มูลนก ยางมะตอย ซึ่งคราบแต่ละชนิดจะมีน้ำยาทำความสะอาดแยกไว้โดยเฉพาะ ให้เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ (Special Products) เพื่อทำความสะอาดคราบเหล่านั้นออกให้หมด
4. กรณีเป็นคราบละอองสีที่ติดมาภายหลังการทำสี คราบสารเคมีที่เกิดจากมลภาวะในอากาศ และน้ำฝน คราบไคลที่ฝังแน่นกับผิวรถ รอยคราบไคลเหล่านี้สังเกตได้จากการใช้มือลูบที่ผิวสีรถจะรู้สึกสากๆ วิธีทำความสะอาดรอยคราบเหล่านี้สามารถใช้ดินน้ำมันสังเคราะห์ (Clay) ที่ผลิตมาโดยเฉพาะ
5. วิธีการทำความสะอาดผิวสีรถยนต์อย่างลึกซึ้งด้วยดินน้ำมัน Clay Bar
วิธีการลูบดินน้ำมันมีดังนี้
(1) กำหนดบริเวณที่จะลูบด้วยดินน้ำมัน หรือจะลูบด้วยดินน้ำมันรอบคันก็ได้
(2) กดดินน้ำมันจนแผ่กว้างให้ได้พื้นที่สัมผัสกับผิวสีรถมากที่สุด แต่ไม่ควรให้บางจนเกินไป ปกติดินน้ำมันจะมีความเหนียวมาก จนไม่สามารถใช้ลูบกับผิวสีรถที่แห้งได้ จะต้องมีสารหล่อลื่นระหว่างลูบ
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์น้ำยาหล่อลื่นสำหรับดินน้ำมันโดยเฉพาะ Clay Lubricant หลายยี่ห้อที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับการลูบด้วยดิน น้ำมันโดยเฉพาะ หากท่านใช้น้ำยาดังกล่าว ให้เริ่มจากการฉีดสเปรย์น้ำยาลงบนบริเวณพื้นผิวสีรถที่ท่านต้องการทำความสะอาด
ทั้งนี้ท่านอาจใช้น้ำสะอาดเป็นตัวหล่อลื่นแทนก็ได้ (คาร์แคร์ส่วนใหญ่มักใช้น้ำเปล่า เพราะประหยัดต้นทุนได้มาก) กรณีที่ท่านต้องการลูบด้วยดินน้ำมันรอบคันรถและต้องการใช้น้ำเปล่าเป็นตัวหล่อลื่น ท่านสามารถลูบดินน้ำมันได้ทันทีหลังล้าง ทำความสะอาดรถเสร็จแล้ว โดยยังไม่ต้องเช็ดรถให้แห้ง แต่จะต้องคอยฉีดน้ำหล่อเลี้ยงผิวรถไว้อย่างสม่ำเสมอไม่ให้แห้งเอง จนกว่าท่านจะลูบด้วยดินน้ำมันเสร็จ
(4) ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดพื้นผิวรถให้สะอาด เมื่อผิวสีรถสะอาดขึ้น ท่านจะรู้สึกได้ทันทีโดยการใช้มือลูบแล้วจะรู้สึกลื่นปื้ดๆ ลื่นกว่าพื้นผิวส่วนอื่นที่ไม่ได้ลูบด้วยดินน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด
(5) ข้อควรระวังอย่างยิ่งขณะลูบด้วยดินน้ำมันนั้น ดินน้ำมันจะมีความลื่น เนื่องจากน้ำยาหรือน้ำสะอาดที่เราใช้หล่อลื่นพื้นผิว ทำให้ดินน้ำมันอาจลื่นหลุดมือได้ง่าย ต้องระวังไม่ให้ดินน้ำมันหลุดหล่นลงพื้นเด็ดขาด เพราะเศษกรวด เม็ดทรายจะติดฝังเข้าไปในดินน้ำมันทันที และยากต่อการเอาสิ่งปลอมปนเหล่านั้นออกจากดินน้ำมัน หากเกิดเหตุการณ์เช่นว่า ควรจะทิ้งดินน้ำมันก้อนนั้นไปเสีย เพราะถ้าท่านยังคงนำมาใช้ต่อ ดินน้ำมันที่มีเศษเม็ดทรายฝังอยู่อาจทำลายสีรถท่านจนเป็นรอยได้
(7) อย่าใช้ดินน้ำมันไปขัดถูล้อแม็ก และยางล้อรถนะครับ เพราะดินน้ำมันจะเก็บเม็ดทรายไว้เป็นอย่างดี
(8) ตรวจดูสิ่งสกปรก และรอยคราบต่างๆ เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อให้แน่ใจว่าทำความสะอาดพื้นผิวสีรถได้หมดจดแล้ว ถ้าพบรอยคราบบางจุดอยู่ก็ทำซ้ำตามขั้นตอนที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ครับ
เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ท่านจะได้รถที่สะอาดมากในระดับหนึ่งแล้ว บางครั้งหากรถของท่านได้รับการดูแลรักษามาเป็นอย่างดีอยู่ก่อนแล้ว ท่านแทบจะไม่ต้องขัดสีรถยนต์เลยด้วยซ้ำ ก็สามารถเคลือบสีได้ทันที ทั้งนี้ก็ต้องดูเป็นกรณีๆไป และขั้นอยู่กับความพอใจของเจ้าของรถด้วยครับ
ข้อมูลจาก : Blocoli.com
No comments